แม่ที่ไม่เคยด่าลูก

สมัยเรียนมัธยม

ซายากะจังเป็นสาวสุดซ่าตัวแสบประจำคลาส


เธอเริ่มไปเรียนพิเศษกวดเข้ามหาวิทยาลัยตอนม.5
เธอทำข้อสอบวัดทักษะความรู้ของโรงเรียนกวดวิชา
ผลสอบคือ….. “ระดับความรู้เทียบเท่าชั้นป.4”

แต่ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปีครึ่ง

เด็กม.5 สติปัญญาป.4 คนนี้ สอบเข้ามหาวิทยาลัยเคโอ
… ม.เอกชนที่สอบเข้ายากที่สุดในญี่ปุ่นได้สำเร็จ

ผู้อยู่เบื้องหลังปาฏิหาริย์ของเธอ คือ ครูสอนพิเศษ และ “ก้าจัง
วันนี้ ดิฉันขอเล่าถึง “ก้าจัง” ค่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ก้าจัง(*)” หรือ คุณแม่ของซายากะจัง มีลูก 3 คน
คือ ซายากะ…ลูกสาวคนโต ลูกสาวคนเล็ก และลูกชาย

ตอนเด็กๆ ซายากะจังโดนเพื่อนแกล้ง
ก้าจังบุกไปถึงโรงเรียนเพื่อพบครู

คุณครูอธิบายว่า “การแกล้งกันในโรงเรียนประถมเป็นเรื่องปกติ โรงเรียนไหนๆ ก็มี
เด็กๆ ย่านนี้ก็ซนๆ กันทั้งนั้น ครูก็ดูแลเหนื่อย เราไม่สามารถดูแลเด็กทุกคนได้หรอกครับ”

พ่อแม่คนอื่นอาจทนต่อไป
แต่ก้าจังให้ลูกลาออกและย้ายโรงเรียนทันที

พอขึ้นชั้นมัธยม ซายากะจังเริ่มแต่งหน้า ย้อมผม ใส่ชุดผิดระเบียบ ไม่เข้าเรียน
ครูบางคนถึงกับด่าเธอว่า “นักเรียนอย่างเธอมันคือขยะชัดๆ”

ก้าจังโดนโรงเรียนเรียกไปพบอยู่บ่อยๆ
เธอก้มศีรษะขอโทษ แต่ขณะเดียวกัน ก็พร่ำบอกครูว่า

“ลูกดิฉันเป็นเด็กดีค่ะ โปรดอย่าตัดสินเด็กว่าเป็นเด็กดีหรือเลวแค่ที่เครื่องแบบหรือคะแนนสอบ”

สถานการณ์เริ่มเลวร้ายที่สุด ตอนที่ซายากะถูกครูจับได้ว่า พกบุหรี่

ครูเรียกเธอมาพบที่ห้อง และขู่ว่า
“ซายากะ…สารภาพมาซะดีๆ มีใครไปสูบกับเธออีกบ้าง
ไม่งั้นโดนลงโทษพักการเรียนถาวรแน่
ถ้าเธอสารภาพ โรงเรียนจะลดโทษให้”

ซายากะปกป้องเพื่อน และปิดปากเงียบ

พอก้าจังมาพบฝ่ายปกครอง เธอบอกทางโรงเรียนว่า
“การให้เด็กนักเรียนขายเพื่อนตัวเอง เป็นนโยบายการศึกษาของทางโรงเรียนเหรอคะ
นี่เหรอ คือ ผู้ให้การศึกษา
ถ้าอย่างนั้น ครูจะไล่ลูกดิฉันออกก็เชิญค่ะ
แต่ดิฉันภูมิใจในตัวลูกสาวดิฉันมาก”

ผลคือ …ซายากะถูกพักการเรียนโดยไม่มีกำหนด
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คนในสังคมอาจมองก้าจังว่า เป็นแม่ที่ “ตามใจลูกเหลือเกิน”
แต่ก้าจังมองว่า เธอจะทำทุกวิธีเพื่อให้ลูกรู้ว่า เธออยู่ข้างๆ พวกเขา พร้อมปกป้องพวกเขา

เวลาลูกทำดี เธอจะชม และชมบ่อยๆ
เวลาลูกทำผิด เธอไม่ดุด่า
แต่จะค่อยๆ สอน ค่อยๆ บอกให้เขารู้
ต้องแยกให้ออกระหว่าง “การเตือน” กับ “การดุด่าโดยใช้อารมณ์”

อย่างถ้าเด็กไม่ยอมไปนอน แล้วแม่อารมณ์เสียตวาดใส่ เพราะต้องรีบไปเก็บกวาดบ้านต่อ
จริงๆ แล้ว เด็กไม่ได้ทำผิด แต่ไม่ยอมทำตามที่แม่ต้องการต่างหาก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


“เลี้ยงลูกให้มีความสุขที่สุด”

ตอนเด็กๆ คุณแม่เลี้ยงก้าจังแบบเข้มงวดมาก
แม่อยากให้เธอเป็นกุลสตรี มารยาทดี ทำงานบ้านเก่ง จะได้แต่งงานไปมีชีวิตดีๆ

แม่ดุก้าจังตลอดเวลา
“ล้างจานไม่ได้เรื่อง ต้มผักแย่”

เธอรู้ว่าแม่อยากให้เธอได้ดี แต่เธอก็ทรมาน
ตอนแม่ออกไปทำธุระนอกบ้าน และสั่งให้เธอทำงานบ้าน
เธอสัมผัสได้ถึงอิสระ เธอเหม่อมองท้องฟ้า เล่นอิสระ
จนถึงเวลาที่แม่ใกล้กลับบ้าน เธอถึงค่อยกระวีกระวาดทำความสะอาด

พอรีบๆ ทำ บ้านไม่สะอาด แม่ก็ดุอีก
ก้าจังรู้สึกผิด และคิดว่า “ฉันมันเป็นคนที่ใช้ไม่ได้เลย”
ความมั่นใจในตัวเองของเธอสลายไปตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้

นอกจากนี้ ตอนเด็กๆ ก้าจังเห็นแม่โดนพี่น้องมาขอเงินอยู่บ่อยๆ
พี่สาวแม่ เรียนจบมหาลัยชื่อดัง หน้าตาสะสวย ได้แต่งงานกับคนรวย
แต่เธอใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย จนทำให้สามีล้มละลาย

ส่วนน้องชายแม่ เคยเป็นนักเบสบอลตัวเอกของทีม และฝันอยากไปทีมชาติ แต่พอล้มเหลว
ก็กลายเป็นคนที่ไม่เอาการเอางานและติดการพนัน

ก้าจังจึงเข้าใจว่า “หน้าตาสะสวย” “เรียนจบม.ชื่อดัง” “ตำแหน่งดังๆ”
ไม่ได้ทำให้คนมีความสุขเลย

เมื่อมีลูก เธอจึงอยากให้ลูกรักตัวเอง ไม่ได้เกลียดตัวเองเหมือนที่เธอเคยเป็น
เธออยากให้ลูกๆ เป็นเด็กที่มีความสุขที่สุด ไม่ใช่เด็กที่เรียนเก่งที่สุด หรือรวยที่สุด

เพราะฉะนั้น ถ้าลูกไม่ไปโรงเรียน เธอไม่โมโห ไม่บังคับให้เชื่อฟังครู
แต่จะถามเหตุผลว่า ทำไมไม่อยากไป
ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป
พอเด็กรู้สึกสบายใจ เดี๋ยวเด็กก็เริ่มอยากไปเอง
ถึงตอนนั้น เธอก็จะชมและให้กำลังใจเขา คอยอยู่เคียงข้างเขา
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


“ลูกชายกับพ่อ”

คุณพ่อซายากะรับไม่ได้ที่ก้าจังเลี้ยงลูกสาวคนโตและคนรองแบบให้อิสระขนาดนี้
แกยื่นคำขาดว่า เธอดูลูกสาว ส่วนฉันจะดูแลลูกชายเอง

พ่อฝันอยากให้ลูกชายเป็นนักกีฬาเบสบอลทีมชาติ
แกฝึกลูกชายอย่างหนักตั้งแต่เล็กๆ
ทุ่มเทฝึก สั่งสอน อบรม
พ่อไม่เคยซื้อของขวัญให้ลูกสาว แต่กลับซื้อรองเท้ากีฬาและถุงมือเบสบอลที่ดีที่สุดให้ลูกชาย

ความฝันและความทุ่มเทของพ่อ กลับกลายเป็นแรงกดดันอันหนักอึ้งบนไหล่ลูกชาย
สุดท้าย ตอนม.ปลาย ลูกชายรับแรงกดนั้นไม่ไหว
เขาเกลียดเบสบอลจนขอลาออกจากชมรม และไม่กลับไปอีกเลย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


“ลูกสาวกับแม่”

พ่อเลี้ยงดูลูกชายแบบเข้มงวด แต่แม่กลับเลี้ยงดูแบบปล่อยอิสระ
วิธีหว่านพืชต่างกัน ผลที่งอกงามก็ต่างกัน

ตอนซายากะถูกครูจับเรื่องมีบุหรี่
เธอเห็นแม่ก้มหัวขอโทษทั้งน้ำตา แต่ก็ยังปกป้องเธอ และภูมิใจในเธอ
เธอรู้สึกผิดและตัดสินใจเลิกบุหรี่ตั้งแต่วันนั้น…

ตอนที่ถูกพักการเรียน ก้าจังเดินมาถามว่า สนใจไปเรียนพิเศษสักนิดไหม
ซายากะเชื่อว่าแม่อยู่เคียงข้างเธอเสมอ ทำเพื่อเธอเสมอ ก็ยอมไปเรียน
(จนได้พบกับครูสอนพิเศษที่เปลี่ยนชีวิตเธอ ไว้จะเล่าให้ฟังค่ะ)

พ่อของซายากะเห็นความเหลวไหลของลูกสาว จึงมองว่า การส่งลูกไปเรียนพิเศษนั้นไร้ค่า
แถมมองว่า ภรรยาโดนครูสอนพิเศษหลอก
อย่างซายากะเหรอจะเข้าม.เคโอ ไม่มีทาง….

แต่ก้าจังที่อยู่เคียงข้างลูกมาตลอด กลับเชื่อมั่นในตัวลูก
เมื่อคุณพ่อก็ปฏิเสธ ไม่ยอมออกเงินค่าเรียนพิเศษ
ก้าจังเลยไปทำงานพิเศษเพื่อหาเงินส่งลูกเรียน

ตอนที่ซายากะลองทำข้อสอบวัดผล แล้วได้คะแนนต่ำกว่าที่คิดไว้เยอะ
เธอคิดจะเลิกสอบเข้าม.เคโอ

เมื่อก้าจังได้ยินลูกสาวพูด เธอบอกว่า “ถ้าเหนื่อย ก็พอเถอะลูก”
แต่ประโยคนั้น กลับทำให้ซายากะฮึดสู้ขึ้นอีกครั้ง

ซายากะยังจำซองใส่ปึกธนบัตรหนาเตอะที่เป็นค่าเรียนพิเศษได้
ธนบัตรปึกนั้นมาจากน้ำพักน้ำแรงของแม่

ก้าจังทำเพื่อเธอมาตลอดชีวิต เธอก็เลยอยากทำเพื่อก้าจังบ้าง
อยากให้ก้าจังดีใจที่เธอสอบเข้าได้

…และเธอสำเร็จ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ในฐานะคนที่เป็นอาจารย์
ดิฉันคงไม่ค่อยปลื้มเด็กแบบซายากะจังเท่าไร
แต่งตัวทำผมแบบนั้น…แถมยังโดดเรียนอีก

แต่พอมองไปดีๆ …
ใครที่ทำให้เด็กคนนี้ต่อต้านโรงเรียน?
เด็กคนนี้เป็นเด็กไม่ดีจริงหรือ?

เด็กที่ไม่ยอมขายเพื่อน ปกป้องเพื่อน
เด็กที่คิดถึงแม่ ตั้งใจเรียนเพื่อแม่ รู้จักขอบคุณแม่

ความรักและวิธีสอนลูกแบบก้าจัง
ทำให้เด็กที่ดูภายนอกเหมือนเป็นเด็กแบบไม่เอาถ่าน
แต่จริงๆ แล้ว เธอเป็นเด็กที่มีน้ำใจ อ่อนโยน และคิดถึงผู้อื่น

ก้าจังคงไม่ค่อยสนแล้วว่า คนอื่นจะวิจารณ์วิธีการเลี้ยงลูกของตัวเองอย่างไร

แต่อย่างน้อย ลูกสาวเธอก็เป็นเด็กที่รักตัวเองและมีความสุขที่สุดคนหนึ่งในญี่ปุ่นแล้วล่ะ

หมายเหตุ: จริงๆ ซายากะเรียกคุณแม่ว่า “อ้าจัง” ไม่ใช่ “ก้าจัง” แต่พอเขียนเป็นภาษาไทยแล้วดูตลก ไม่เหมือนชื่อเรียก เกรงว่า ผู้อ่านจะสับสน จึงขออนุญาตใช้คำว่า “ก้าจัง” ซึ่งมาจากคำว่า “โอก้าซัง” ที่แปลว่า “แม่” ในบทความค่ะ

Source:
Kinsuma (TV Program)
หนังสือเรื่องราวปาฏิหาริย์ของซายากะจัง (JP Only)

Avatar photo
เจ้าของนามปากกา เกตุวดี กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดญี่ปุ่นที่เขียนบทความจากประสบการณ์ศึกษาและทำงานที่ญี่ปุ่นเกือบ 10 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักเขียนประจำเว็บไซต์กรุงศรี กูรูด้านการตลาดที่พร้อมให้ความรู้และเรื่องราวสไตล์แดนปลาดิบ "หมั่นถามตนเองเสมอว่า ในวันนี้เราได้สร้างประโยชน์อะไรให้ลูกค้า/สังคมแล้วหรือยัง"