สมัยก่อน ตอนทำงานล่ามญี่ปุ่น ลูกค้ามักจะชมดิฉันบ่อยๆ ว่า สำเนียงดีมาก พูดภาษาญี่ปุ่นดีมาก เป็นธรรมชาติ เหมือนคุยกับคนญี่ปุ่นอยู่เลย
สิ่งที่ดิฉันแปลกใจ คือ เมื่อเดือนที่แล้ว ดิฉันไปลองไปทำแบบทดสอบระดับทักษะและพรสวรรค์ติดตัว
ปรากฏว่า ในบรรดาความถนัดทั้ง 10 ประการ ความถนัดด้านภาษาของดิฉันอยู่อันดับที่ 5 … ดิฉันเคยมั่นใจว่า ตัวเองหูดี เรียนรู้ภาษาได้เร็ว แต่เอาเข้าจริง ต้นทุนเดิมไม่ได้สูงเลย
เคล็ดลับเดียวที่ทำให้ดิฉันพูดญี่ปุ่นได้ดี คือ “ความอึด” ค่ะ
ดิฉันเคยเขียนบทความเกี่ยวกับเทคนิคในการเรียนภาษาญี่ปุ่นไว้ในลิ้งค์ด้านล่างแล้ว
แต่เมื่อเช้า เพิ่งนึกออกถึงแบบฝึกหัดส่วนตัวอีกบทหนึ่งที่ตัวเองพร่ำฝึกเมื่อ 12 ปีก่อน เลยขอเอามาเล่าให้ฟังนะคะ
สมัยเรียนภาษาญี่ปุ่นใหม่ๆ อาจารย์จะแจกเทปให้พวกเราเอาไปทำการบ้านการฟังที่บ้าน ฟังเทป แล้วเขียนศัพท์ในชีท เนื่องจากศัพท์ก็ไม่ได้ยากมาก ทำแป๊บเดียวก็เสร็จ ดิฉันจึงนั่งเอาเวลาที่เหลือมาอ่านออกเสียงตามเทปค่ะ
เช่น เสียงในเทปจะสะกดว่า “โทเคอิ/ อิชิกัทสึ/ซามุ่ย”
ดิฉันก็ออกเสียงตาม
แต่ทำอย่างนี้ไป 3-4 รอบก็เบื่อ ดิฉันเลยเอาที่อัดเสียงมาอัดเสียงตัวเองกับเทป แล้วกรอๆ ฟังดูว่า สำเนียงตัวเองเข้าใกล้เจ้าของภาษาในเทปหรือยัง
พอตอนไปเรียนภาษาที่ญ๊่ปุ่นปีแรก อาจารย์ก็มีแบบฝึกหัดหัดฟังให้ฟังอีก แต่คราวนี้ เนื้อหาแอดวานซ์ขึ้น อ่านเป็นประโยค ดิฉันก็ทำแบบเดิมค่ะ ฟังเขียนออกเสียงตาม และอัดเทปเปรียบเทียบความแตกต่าง
พอตอนเข้ามหาลัยปี 1 ดิฉันลงแข่งประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่น ดิฉันนำสคริปท์ภาษาญี่ปุ่นไปให้คนญี่ปุ่นอ่านให้ฟัง แล้วก็ท่องสำเนียงให้เหมือนคนญี่ปุ่น อัดเสียงแล้วเปรียบเทียบ แล้วฟังเองว่าอ่านเสียงสูงต่ำต่างกันตรงไหน
พอขึ้นปี 2 ปี 3 ดิฉันก็ยังลงประกวดสุนทรพจน์อยู่ แล้วก็ยังคงฝึกทำอย่างเดิม
ในช่วงวันธรรมดา ดิฉันก็คอยเงีี่ยหูฟังว่า เพื่อนๆ พูดภาษาญี่ปุ่นอย่างไร ลงท้ายคำว่าอย่างไร สมมติว่า ในตำราภาษาไทย อาจารย์สอนว่า “ไปที่ไหน” แต่ถ้าพวกเราพูดกันจริงๆ เราจะพูดว่า “ไปไหนอ่ะ” สำเนียงและคำเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ดิฉันชอบฟัง ชอบสังเกต และชอบพูดตาม
การฝึกอย่างนี้เรื่อยๆตลอด 4-5 ปี ทำให้ดิฉันพูดภาษาได้ดีมากๆ สำเนียงใกล้เคียงคนญี่ปุ่น
น้องๆ คนไหนเรียนที่เมืองไทยอย่าท้อใจว่า จะไปฝึกกับเจ้าของภาษาที่ไหน สมัยนี้มีละคร เพลง คอนเสิร์ตให้ดูฟรีทางยูทู้บมากมาย น้องๆ สามารถใช้วิธีัเดียวกับพี่ได้โดยไม่จำเป็นต้องไปญี่ปุ่นเลย
ดิฉันใช้วิธีเดียวกันนี้ในการฝึกภาษาอังกฤษ และปัจจุบัน ก็สามารถสอนวิชาต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงไปวัดไปวาได้โดยที่ตัวเองไม่เคยไปเรียนที่ประเทศเจ้าของภาษาเลย
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ต่อสู้กับการเรียนภาษาค่ะ