ตอนที่ดิฉันไปเมืองเบปปุ
เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งออนเซ็น (บ่อน้ำแร่) ญี่ปุ่น
ดิฉันฉงนและขำกับป้ายบอกราคาของร้านออนเซ็นแห่งหนึ่งในเมืองค่ะ

ในป้ายเขียนว่า
ค่าบริการ
1 ท่าน 200 เยน
2 ท่าน 400 เยน
3 ท่าน 600 เยน
ค่ะ…หนูคูณเลขเป็น
ดิฉันเคยเจอร้านซาลาเปา Franchise เจ้าดัง ติดป้ายราคาซาลาเปา 1 ลูก 100 เยน 2 ลูก 200 เยน ..จนถึงบรรทัดล่างสุด บรรทัดที่ 10….ให้ทายว่าเขาเขียนว่าอะไรคะ?
“10 ลูก 1,000 เยน”
คนไทยหรือฝรั่งมักจะตั้งราคาแบบซื้อเยอะๆ แล้วได้ราคาถูก เช่น ซื้อ 3 แถม 1 หรือซื้อซาลาเปา 3 ลูก ลดเหลือ 250 เยนจากราคาเต็ม 300 เยน ตอนดิฉันไปอเมริกา จะซื้อยาอมแก้เจ็บคอ Fisherman friend พี่กันยังมีโปรโมชั่นซื้อ 3 ซองเหลือซองละ 1 ดอลลาร์เท่านั้น!
(แล้วซื้อ 3 ซองมั้ย? ซื้อ…)
ที่ญี่ปุ่น ไม่มีโปรโมชั่นแบบนี้ค่ะ
ถ้าลดราคาก็คือ ลดไปเลย เช่น 1,280 เยน ลดเหลือ 1,000 เยน
แต่ไม่ได้กระตุ้นให้คนซื้อเยอะๆ
คนญี่ปุ่นไม่นิยมซื้อของทีละเยอะๆ
เนื่องจากบ้านคนญี่ปุ่นมีพื้นที่จำกัด
หากซื้อของไปตุนเยอะๆ บ้านก็จะรก ไม่มีที่เก็บ
เพราะฉะนั้น คนญี่ปุ่นจึงเลือกที่จะซื้อของทีละน้อย แต่ซื้อบ่อยๆ ดีกว่าซื้อไปเยอะๆ แล้วตุนไว้นานๆ ค่าเสียโอกาสในการใช้พื้นที่สูงกว่าค่าสินค้านั่นเอง
ใครไปญี่ปุ่น ลองสังเกตป้ายราคาดูนะคะ
—————————————————
วิธีอ่านป้ายราคาญี่ปุ่น
ปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่นคิดภาษี VAT 8% แล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าราคารวม VAT แล้วหรือยัง
ลองสังเกตคำต่อไปนี้ค่ะ
1. 税込 (Zei-komi)
แปลว่า รวมภาษีแล้ว

อันนี้รวมภาษีแล้วค่ะ
2. 税別 (Zei-betsu)
เพื่อนๆคงเริ่มเดาออกแล้ว “税” ก็คือภาษีนั่นเอง
อันนี้ แปลว่า ค่าหนังสือเล่มนี้ 1,500 เยน ยังไม่รวมภาษีจ้ะ
3. 免税店
ไหนๆ ก็ไหนๆละ แถมอีกคำ
คำข้างบนแปลว่าอะไรให้ทายค่ะ
店 = ร้าน
税 = ภาษี
免=> มาจากคำว่า 免除 แปลว่า “ละเว้น”
เพราะฉะนั้น 免税店(Men-zei-ten)แปลว่า ร้าน Duty-free นั่นเอง
ในป้ายเขียนว่า
ค่าบริการ
1 ท่าน 200 เยน
2 ท่าน 400 เยน
3 ท่าน 600 เยน
ค่ะ…หนูคูณเลขเป็น
ดิฉันเคยเจอร้านซาลาเปา Franchise เจ้าดัง ติดป้ายราคาซาลาเปา 1 ลูก 100 เยน 2 ลูก 200 เยน ..จนถึงบรรทัดล่างสุด บรรทัดที่ 10….ให้ทายว่าเขาเขียนว่าอะไรคะ? 🙂
“10 ลูก 1,000 เยน”
คนไทยหรือฝรั่งมักจะตั้งราคาแบบซื้อเยอะๆ แล้วได้ราคาถูก เช่น ซื้อ 3 แถม 1 หรือซื้อซาลาเปา 3 ลูก ลดเหลือ 250 เยนจากราคาเต็ม 300 เยน ตอนดิฉันไปอเมริกา จะซื้อยาอมแก้เจ็บคอ Fisherman friend พี่กันยังมีโปรโมชั่นซื้อ 3 ซองเหลือซองละ 1 ดอลลาร์เท่านั้น!
(แล้วซื้อ 3 ซองมั้ย? ซื้อ…)
ที่ญี่ปุ่น ไม่มีโปรโมชั่นแบบนี้ค่ะ
ถ้าลดราคาก็คือ ลดไปเลย เช่น 1,280 เยน ลดเหลือ 1,000 เยน
แต่ไม่ได้กระตุ้นให้คนซื้อเยอะๆ
คนญี่ปุ่นไม่นิยมซื้อของทีละเยอะๆ
เนื่องจากบ้านคนญี่ปุ่นมีพื้นที่จำกัด
หากซื้อของไปตุนเยอะๆ บ้านก็จะรก ไม่มีที่เก็บ
เพราะฉะนั้น คนญี่ปุ่นจึงเลือกที่จะซื้อของทีละน้อย แต่ซื้อบ่อยๆ ดีกว่าซื้อไปเยอะๆ แล้วตุนไว้นานๆ ค่าเสียโอกาสในการใช้พื้นที่สูงกว่าค่าสินค้านั่นเอง
ใครไปญี่ปุ่น ลองสังเกตป้ายราคาดูนะคะ 🙂
—————————————————
วิธีอ่านป้ายราคาญี่ปุ่น
ปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่นคิดภาษี VAT 8% แล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าราคารวม VAT แล้วหรือยัง
ลองสังเกตคำต่อไปนี้ค่ะ
- 税込 (Zei-komi)
แปลว่า รวมภาษีแล้ว
ป้ายสินค้า Ghibli ยังน่ารักเล้ยย
ป้ายสินค้า Ghibli ยังน่ารักเล้ยย
อันนี้รวมภาษีแล้วค่ะ
- 税別 (Zei-betsu)
เพื่อนๆคงเริ่มเดาออกแล้ว “税” ก็คือภาษีนั่นเอง

อันนี้ แปลว่า ค่าหนังสือเล่มนี้ 1,500 เยน ยังไม่รวมภาษีจ้ะ
- 免税店
ไหนๆ ก็ไหนๆละ แถมอีกคำ
คำข้างบนแปลว่าอะไรให้ทายค่ะ 🙂
店 = ร้าน
税 = ภาษี
免=> มาจากคำว่า 免除 แปลว่า “ละเว้น”
เพราะฉะนั้น 免税店(Men-zei-ten)แปลว่า ร้าน Duty-free นั่นเอง