การตั้งราคาแบบญี่ปุ่น (ซื้อเท่าไร จ่ายเท่านั้น)

ตอนที่ดิฉันไปเมืองเบปปุ

เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งออนเซ็น (บ่อน้ำแร่) ญี่ปุ่น


ดิฉันฉงนและขำกับป้ายบอกราคาของร้านออนเซ็นแห่งหนึ่งในเมืองค่ะ

1463725_770652289674790_6217523368368593802_n

ในป้ายเขียนว่า
ค่าบริการ

1 ท่าน 200 เยน

2 ท่าน 400 เยน

3 ท่าน 600 เยน

ค่ะ…หนูคูณเลขเป็น

ดิฉันเคยเจอร้านซาลาเปา Franchise เจ้าดัง ติดป้ายราคาซาลาเปา 1 ลูก 100 เยน 2 ลูก 200 เยน ..จนถึงบรรทัดล่างสุด บรรทัดที่ 10….ให้ทายว่าเขาเขียนว่าอะไรคะ? 

10 ลูก 1,000 เยน

คนไทยหรือฝรั่งมักจะตั้งราคาแบบซื้อเยอะๆ แล้วได้ราคาถูก เช่น ซื้อ 3 แถม 1 หรือซื้อซาลาเปา 3 ลูก ลดเหลือ 250 เยนจากราคาเต็ม 300 เยน ตอนดิฉันไปอเมริกา จะซื้อยาอมแก้เจ็บคอ Fisherman friend พี่กันยังมีโปรโมชั่นซื้อ 3 ซองเหลือซองละ 1 ดอลลาร์เท่านั้น!
(แล้วซื้อ 3 ซองมั้ย? ซื้อ…)

ที่ญี่ปุ่น ไม่มีโปรโมชั่นแบบนี้ค่ะ

ถ้าลดราคาก็คือ ลดไปเลย เช่น 1,280 เยน ลดเหลือ 1,000 เยน
แต่ไม่ได้กระตุ้นให้คนซื้อเยอะๆ

คนญี่ปุ่นไม่นิยมซื้อของทีละเยอะๆ
เนื่องจากบ้านคนญี่ปุ่นมีพื้นที่จำกัด

หากซื้อของไปตุนเยอะๆ บ้านก็จะรก ไม่มีที่เก็บ

เพราะฉะนั้น คนญี่ปุ่นจึงเลือกที่จะซื้อของทีละน้อย แต่ซื้อบ่อยๆ ดีกว่าซื้อไปเยอะๆ แล้วตุนไว้นานๆ ค่าเสียโอกาสในการใช้พื้นที่สูงกว่าค่าสินค้านั่นเอง

ใครไปญี่ปุ่น ลองสังเกตป้ายราคาดูนะคะ 
—————————————————
วิธีอ่านป้ายราคาญี่ปุ่น 
ปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่นคิดภาษี VAT 8% แล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าราคารวม VAT แล้วหรือยัง
ลองสังเกตคำต่อไปนี้ค่ะ
1. 税込 (Zei-komi)

แปลว่า รวมภาษีแล้ว

ป้ายสินค้า Ghibli ยังน่ารักเล้ยย
ป้ายสินค้า Ghibli ยังน่ารักเล้ยย

อันนี้รวมภาษีแล้วค่ะ

2. 税別 (Zei-betsu)

เพื่อนๆคงเริ่มเดาออกแล้ว “税” ก็คือภาษีนั่นเอง
อันนี้ แปลว่า ค่าหนังสือเล่มนี้ 1,500 เยน ยังไม่รวมภาษีจ้ะ

3. 免税店
ไหนๆ ก็ไหนๆละ แถมอีกคำ

คำข้างบนแปลว่าอะไรให้ทายค่ะ 

店 = ร้าน

税 = ภาษี
免=> มาจากคำว่า 免除 แปลว่า “ละเว้น”
เพราะฉะนั้น 免税店(Men-zei-ten)แปลว่า ร้าน Duty-free นั่นเอง

ในป้ายเขียนว่า
ค่าบริการ

1 ท่าน 200 เยน

2 ท่าน 400 เยน

3 ท่าน 600 เยน

ค่ะ…หนูคูณเลขเป็น

ดิฉันเคยเจอร้านซาลาเปา Franchise เจ้าดัง ติดป้ายราคาซาลาเปา 1 ลูก 100 เยน 2 ลูก 200 เยน ..จนถึงบรรทัดล่างสุด บรรทัดที่ 10….ให้ทายว่าเขาเขียนว่าอะไรคะ? 🙂

“10 ลูก 1,000 เยน”

คนไทยหรือฝรั่งมักจะตั้งราคาแบบซื้อเยอะๆ แล้วได้ราคาถูก เช่น ซื้อ 3 แถม 1 หรือซื้อซาลาเปา 3 ลูก ลดเหลือ 250 เยนจากราคาเต็ม 300 เยน ตอนดิฉันไปอเมริกา จะซื้อยาอมแก้เจ็บคอ Fisherman friend พี่กันยังมีโปรโมชั่นซื้อ 3 ซองเหลือซองละ 1 ดอลลาร์เท่านั้น!
(แล้วซื้อ 3 ซองมั้ย? ซื้อ…)

ที่ญี่ปุ่น ไม่มีโปรโมชั่นแบบนี้ค่ะ

ถ้าลดราคาก็คือ ลดไปเลย เช่น 1,280 เยน ลดเหลือ 1,000 เยน
แต่ไม่ได้กระตุ้นให้คนซื้อเยอะๆ

คนญี่ปุ่นไม่นิยมซื้อของทีละเยอะๆ
เนื่องจากบ้านคนญี่ปุ่นมีพื้นที่จำกัด

หากซื้อของไปตุนเยอะๆ บ้านก็จะรก ไม่มีที่เก็บ

เพราะฉะนั้น คนญี่ปุ่นจึงเลือกที่จะซื้อของทีละน้อย แต่ซื้อบ่อยๆ ดีกว่าซื้อไปเยอะๆ แล้วตุนไว้นานๆ ค่าเสียโอกาสในการใช้พื้นที่สูงกว่าค่าสินค้านั่นเอง

ใครไปญี่ปุ่น ลองสังเกตป้ายราคาดูนะคะ 🙂
—————————————————
วิธีอ่านป้ายราคาญี่ปุ่น
ปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่นคิดภาษี VAT 8% แล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าราคารวม VAT แล้วหรือยัง
ลองสังเกตคำต่อไปนี้ค่ะ

  1. 税込 (Zei-komi)

แปลว่า รวมภาษีแล้ว

ป้ายสินค้า Ghibli ยังน่ารักเล้ยย
ป้ายสินค้า Ghibli ยังน่ารักเล้ยย
อันนี้รวมภาษีแล้วค่ะ

  1. 税別 (Zei-betsu)

เพื่อนๆคงเริ่มเดาออกแล้ว “税” ก็คือภาษีนั่นเอง

อันนี้ แปลว่า ค่าหนังสือเล่มนี้ 1,500 เยน ยังไม่รวมภาษีจ้ะ

  1. 免税店
    ไหนๆ ก็ไหนๆละ แถมอีกคำ

คำข้างบนแปลว่าอะไรให้ทายค่ะ 🙂

店 = ร้าน

税 = ภาษี
免=> มาจากคำว่า 免除 แปลว่า “ละเว้น”
เพราะฉะนั้น 免税店(Men-zei-ten)แปลว่า ร้าน Duty-free นั่นเอง

Avatar photo
เจ้าของนามปากกา เกตุวดี กูรูผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดญี่ปุ่นที่เขียนบทความจากประสบการณ์ศึกษาและทำงานที่ญี่ปุ่นเกือบ 10 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักเขียนประจำเว็บไซต์กรุงศรี กูรูด้านการตลาดที่พร้อมให้ความรู้และเรื่องราวสไตล์แดนปลาดิบ "หมั่นถามตนเองเสมอว่า ในวันนี้เราได้สร้างประโยชน์อะไรให้ลูกค้า/สังคมแล้วหรือยัง"